อีก 1 ช่องทางในการติดต่อ

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กลิ่นปาก

อุปสรรคสำคัญในการเข้าสังคม พบปะเพื่อนฝูง ที่หมอมักพบจากคำบอกเล่าของคนไข้บ่อยๆคือเรื่อง กลิ่นปาก ครับ คนไข้บางคนกังวลมากจนไม่กล้าพูดคุยกับใคร (แม้แต่กับหมอ)

แน่นอนว่าคนที่มีกลิ่นปากนั้น ถ้ารู้ตัวก็จะทำให้ไม่มีความมั่นใจในการพูดคุย แต่หากไม่รู้ตัวก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ครับ คนรอบข้างอาจพากันหนีหน้าได้

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรามีกลิ่นปาก ?

วิธีตรวจด้วยตัวเองสามารถทำได้โดย เอามือป้องปาก-จมูกให้สนิท หลังจากนั้นให้หายใจออกทางปากแรงๆ ยาวๆ แล้วหายใจเข้าทางจมูกโดยไม่ต้องเปิดมือออกครับ

แต่หากเรามีอาการอักเสบของโพรงจมูก (ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นปากด้วย) ร่วมด้วย ก็อาจจะไม่ได้กลิ่นได้

ดังนั้น วิธีที่ดีและให้ผลแน่นอนในการตรวจก็คือ ถามคนใกล้ชิด ให้เขาบอกมาตามตรงนั่นแหละครับ ง่ายที่สุด

กลิ่นปากเกิดจากอะไร ?

ทีนี้.. สมมติว่ามีคนใกล้ชิดคอนเฟิร์มแล้วว่าเรามีกลิ่นปากจริงๆ การจะแก้ไขก็คงต้องมาดูที่สาเหตุกันก่อนครับ

สาเหตุของการเกิดกลิ่นปากนั้นอาจมาได้จากทั้งภายใน และภายนอกช่องปากครับ

สาเหตุจากภายในช่องปาก เช่น

1. การทำความสะอาดช่องปากไม่ดี มีเศษอาหารตกค้างบนผิวฟัน ตามซอกฟัน และบนผิวลิ้น (อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยนะครับ)

2. การดื่มน้ำน้อยเกินไป จะทำให้น้ำลายน้อยและข้นขึ้น

3. มีฟันผุในปาก ตัวฟันผุเองก็มีกลิ่นอยู่แล้ว แถมรูที่ผุยังเป็นจุดกักเศษอาหารด้วยครับ

4. เหงือกอักเสบ

5. กลิ่นจากฟันปลอม

สาเหตุจากภายนอกช่องปาก

1. การทานอาหารที่มีกลิ่น เช่นกระเทียม สะตอ

2. การสูบบุหรี่ นอกจากควันบุหรี่จะมีกลิ่นรุนแรงแล้ว คราบบุหรี่บนฟันก็เป็นบริเวณที่เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่นได้ด้วย

3. การอักเสบของเนื้อเยื่ออื่นๆใกล้เคียงช่องปาก โรคของระบบทางเดินหายใจ เช่นโพรงจมูกอักเสบ (ไซนัส) หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่นภาวะกรดไหลย้อน เป็นต้น

ส่วนวิธีป้องกันและแก้ไขการเกิดกลิ่นปากนั้นก็ไม่ยากครับ

1. ทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างสม่ำเสมอ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันสม่ำเสมอ อย่างลืมแปรงลิ้นเวลาแปรงฟัน

2. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว (น้ำเปล่าดีที่สุดครับ)

3. ตรวจฟันทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คบริเวณที่เราอาจทำความสะอาดไม่ทั่วถึง และตรวจหาฟันผุในระยะเริ่มต้น

4. ลดอาหารที่มีกลิ่นแรงลง หรือบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร การเคี้ยวหมากฝรั่ง (แบบไม่มีน้ำตาล) จะช่วยได้ทั้งการทำความสะอาดฟันและกระตุ้นให้เราผลิตน้ำลายออกมามากขึ้น สามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ แต่เคี้ยวเยอะไป ระวังกรามใหญ่นะครับ....

5. ลด-ละ-เลิกบุหรี่ และผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด

6. สำหรับผู้ใช้ฟันปลอม อย่าลืมทำความสะอาดฟันปลอมด้วยนะครับ ถอดล้างทุกครั้งหลังทานอาหาร และแปรงให้สะอาดทุกครั้งเมื่อถอดและก่อนใส่

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากเพิ่มเติม
สามารถเขียนเข้ามาถามได้ที่ dental.d.clinic@gmail.com

และสำหรับผู้ใช้ Facebook สามารถเข้ามาเยี่ยมกันได้ที่
www.facebook.com/dentaldclinic

สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็น สอบถามเกี่ยวกับการรักษาได้ที่
Facebook ได้เหมือนกัน
อย่าลืมกด 'Like' เพื่อติดตามข่าวสารต่างๆของทางคลินิกด้วยนะครับ

ทพ.ศิลา จิรวัฒโนทัย